เทคนิควางแผนการเงิน ภาษี และเกษียณสำหรับ หมอฟัน ด้วยประกัน

เทคนิควางแผนการเงิน ภาษี และเกษียณสำหรับ หมอฟัน ด้วยประกัน: ปิดความเสี่ยงอาชีพและสร้างความมั่นคงระยะยาว
สรุปสำคัญสำหรับทันตแพทย์
- รายได้หมอฟันดีแต่อาจผันผวน ขึ้นกับจำนวนคนไข้ เคสทำเล
- ค่าอุปกรณ์เครื่องมือสูง การลงทุนคลินิกใช้เงินเยอะ
- สุขภาพอาชีพเสื่อมเร็ว โดยเฉพาะ มือ หลัง คอ ตา
- หมอฟันจำนวนมาก ไม่มีเงินบำนาญ รายได้หยุดทันทีเมื่อหยุดทำงาน
- ประกันช่วยสร้าง เงินเกษียณ + สภาพคล่อง + ภาษี + มรดก อย่างเป็นระบบ
อาชีพทันตแพทย์สร้างรายได้ดี แต่เต็มไปด้วยความเสี่ยงเฉพาะทางที่อาชีพอื่นไม่มีกล่าวคือ รายได้ขึ้นกับแรงงานของตัวเอง 100% หากมือเจ็บ หลังเจ็บ หรือเกิดเหตุไม่คาดคิด รายได้หยุดทันที
และเพราะคลินิกทันตกรรมใช้ต้นทุนสูง จึงยิ่งต้องมีระบบการเงิน และความคุ้มครองที่ช่วยรองรับเหตุการณ์ฉุกเฉินและแผนเกษียณระยะยาว
1) วางแผนภาษีสำหรับหมอฟัน: ปิดความเสี่ยงรายได้สูงค่าใช้จ่ายสูง
1.1 ทำไมหมอฟันต้องสนใจภาษี?
รายได้หมอฟันจำนวนมากเป็น เงินสด + รายได้ค่าเวร + รายได้คลินิกส่วนตัว ซึ่งเสียภาษีเต็มจำนวน และบางปีภาระภาษีอาจสูงถึง 25 - 35%
1.2 ประกันช่วยจัดโครงสร้างภาษีได้อย่างไร?
- ใช้ประกันบางแบบลดหย่อนภาษีได้ (ขึ้นกับเกณฑ์แต่ละปี)
- สร้างสภาพคล่องมรดก กรณีเกิดเหตุไม่คาดคิด
- ป้องกันครอบครัวจากภาระหนี้สินคลินิกหรือค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน
- ลดความเสี่ยงต้อง ขายกิจการ หรือ ขายเครื่องมือทันตกรรมอย่างเร่งด่วน
ด้วยต้นทุนเครื่องมือที่แพง เช่น CBCT, Intraoral Scanner, CAD/CAM การมีประกันคือการป้องกันไม่ให้ครอบครัวต้องรีบขายสินทรัพย์ในราคาต่ำ.
2) วางแผนเกษียณสำหรับหมอฟัน: รายได้หยุดทันทีเมื่อหยุดทำ
2.1 ประกันบำนาญ: รายได้หลังเกษียณแบบ คงที่
เหมาะสำหรับหมอฟันที่ต้องการ:
- รายได้หลังเกษียณแน่นอนทุกปี
- วางแผนแบบไม่ต้องบริหารพอร์ตเอง
- รองรับช่วงอายุ 5565 ปี ที่อาจลดจำนวนเคสลง
2.2 Unit-linked: ลงทุน + คุ้มครอง + สภาพคล่อง
เหมาะกับทันตแพทย์ที่ยังอายุไม่มากและต้องการเติบโตของเงิน:
- ปรับระดับความเสี่ยงได้
- ถอนบางส่วนได้สำหรับเงินคลินิกฉุกเฉินค่าอุปกรณ์
- มีคุ้มครองชีวิตควบคู่กัน
- สร้างเงินก้อนเกษียณแบบยืดหยุ่น
2.3 ปิดความเสี่ยงสุขภาพที่กระทบอาชีพทันที
ความเสี่ยงใหญ่ของหมอฟันคืออาการ:
- นิ้วข้อมืออักเสบ / Carpal Tunnel
- ปวดคอหลัง
- ปัญหาสายตาจากการมองระยะใกล้นานๆ
- โรคเรื้อรังที่เกิดจากความเครียดสะสม
ประกันสุขภาพ + โรคร้ายแรงช่วยป้องกันเงินเกษียณจากค่าใช้จ่ายรักษาที่คาดไม่ถึง.
3) เทคนิคจัดโครงสร้างประกัน แบบหมอฟันโดยเฉพาะ
เทคนิค 1: ทำประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองรายได้ของครอบครัว
เพราะรายได้หมอฟันขึ้นกับจำนวนเคส หากเกิดเหตุ ครอบครัวอาจไม่มีเงินหมุนในระยะสั้น ประกันชีวิตช่วยชดเชยรายได้ที่หายไปได้ทันที.
เทคนิค 2: ใช้ Unit-linked เป็นสภาพคล่องคลินิก
- ถอนบางส่วนได้สำหรับซื้ออุปกรณ์ใหม่
- ใช้เป็นเงินสำรองเวลาคนไข้ลดลง
- ยังคงคุ้มครองชีวิตอยู่
เทคนิค 3: แยกประกันตามวัตถุประสงค์
- คุ้มครองครอบครัว ประกันชีวิต
- เงินเกษียณ บำนาญ + UL
- สุขภาพ IPD/OPD
- โรคร้ายแรง CI
- ความเสี่ยงมือหลังตา ทุพพลภาพ
เทคนิค 4: ทำมรดกชดเชยมูลค่าคลินิก
กรณีหมอฟันเป็นเจ้าของคลินิก เงินประกันช่วย ชดเชยมูลค่าธุรกิจ ให้ครอบครัวได้ และลดโอกาสต้องขายกิจการในราคาต่ำ.
4) โครงสร้างแผนประกันที่แนะนำสำหรับหมอฟัน
อายุ 25 - 35 ปี (เริ่มทำงาน)
- สุขภาพ + โรคร้ายแรง
- Unit-linked เร่งเงินเกษียณ
- ประกันชีวิตเริ่มต้นเพื่อป้องกันรายได้
อายุ 35 - 45 ปี (เริ่มมีคลินิก/รายได้สูง)
- เพิ่มเบี้ย UL / บำนาญ
- คุ้มครองชีวิต 515 ล้านบาทขึ้นไป
- ทุพพลภาพระดับสูง
อายุ 45 - 55 ปี (เริ่มลดเคส)
- ทยอยปรับพอร์ต Unit-linked ให้เสี่ยงต่ำลง
- ล็อกเงินบำนาญเพิ่ม
- เสริมสุขภาพ IPD+OPD
สนใจให้ช่วยออกแบบแผนเฉพาะสำหรับคุณ?
ทัก Line เพื่อรับคำปรึกษาส่วนตัวได้ทันที
ช่องทางอื่นๆ และ นามบัตรดิจิทัล
สนใจเป็นตัวแทน กับหน่วยงาน iAgencyAIA