เทคนิควางแผนการเงิน ภาษี และเกษียณสำหรับ หมอฟัน ด้วยประกัน

เทคนิควางแผนการเงิน ภาษี และเกษียณสำหรับ หมอฟัน ด้วยประกัน: ปิดความเสี่ยงอาชีพและสร้างความมั่นคงระยะยาว

อัปเดต 2025 สำหรับทันตแพทย์คลินิก, หมอฟันเอกชน, เจ้าของคลินิก และทันตแพทย์เฉพาะทางทุกสาขา

 

สรุปสำคัญสำหรับทันตแพทย์

  • รายได้หมอฟันดีแต่อาจผันผวน ขึ้นกับจำนวนคนไข้ เคสทำเล
  • ค่าอุปกรณ์เครื่องมือสูง การลงทุนคลินิกใช้เงินเยอะ
  • สุขภาพอาชีพเสื่อมเร็ว โดยเฉพาะ มือ หลัง คอ ตา
  • หมอฟันจำนวนมาก ไม่มีเงินบำนาญ รายได้หยุดทันทีเมื่อหยุดทำงาน
  • ประกันช่วยสร้าง เงินเกษียณ + สภาพคล่อง + ภาษี + มรดก อย่างเป็นระบบ

อาชีพทันตแพทย์สร้างรายได้ดี แต่เต็มไปด้วยความเสี่ยงเฉพาะทางที่อาชีพอื่นไม่มีกล่าวคือ รายได้ขึ้นกับแรงงานของตัวเอง 100% หากมือเจ็บ หลังเจ็บ หรือเกิดเหตุไม่คาดคิด รายได้หยุดทันที

และเพราะคลินิกทันตกรรมใช้ต้นทุนสูง จึงยิ่งต้องมีระบบการเงิน และความคุ้มครองที่ช่วยรองรับเหตุการณ์ฉุกเฉินและแผนเกษียณระยะยาว

 

1) วางแผนภาษีสำหรับหมอฟัน: ปิดความเสี่ยงรายได้สูงค่าใช้จ่ายสูง

1.1 ทำไมหมอฟันต้องสนใจภาษี?

รายได้หมอฟันจำนวนมากเป็น เงินสด + รายได้ค่าเวร + รายได้คลินิกส่วนตัว ซึ่งเสียภาษีเต็มจำนวน และบางปีภาระภาษีอาจสูงถึง 25 - 35%

1.2 ประกันช่วยจัดโครงสร้างภาษีได้อย่างไร?

  • ใช้ประกันบางแบบลดหย่อนภาษีได้ (ขึ้นกับเกณฑ์แต่ละปี)
  • สร้างสภาพคล่องมรดก กรณีเกิดเหตุไม่คาดคิด
  • ป้องกันครอบครัวจากภาระหนี้สินคลินิกหรือค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน
  • ลดความเสี่ยงต้อง ขายกิจการ หรือ ขายเครื่องมือทันตกรรมอย่างเร่งด่วน

ด้วยต้นทุนเครื่องมือที่แพง เช่น CBCT, Intraoral Scanner, CAD/CAM การมีประกันคือการป้องกันไม่ให้ครอบครัวต้องรีบขายสินทรัพย์ในราคาต่ำ.


2) วางแผนเกษียณสำหรับหมอฟัน: รายได้หยุดทันทีเมื่อหยุดทำ

2.1 ประกันบำนาญ: รายได้หลังเกษียณแบบ คงที่

เหมาะสำหรับหมอฟันที่ต้องการ:

  • รายได้หลังเกษียณแน่นอนทุกปี
  • วางแผนแบบไม่ต้องบริหารพอร์ตเอง
  • รองรับช่วงอายุ 5565 ปี ที่อาจลดจำนวนเคสลง

2.2 Unit-linked: ลงทุน + คุ้มครอง + สภาพคล่อง

เหมาะกับทันตแพทย์ที่ยังอายุไม่มากและต้องการเติบโตของเงิน:

  • ปรับระดับความเสี่ยงได้
  • ถอนบางส่วนได้สำหรับเงินคลินิกฉุกเฉินค่าอุปกรณ์
  • มีคุ้มครองชีวิตควบคู่กัน
  • สร้างเงินก้อนเกษียณแบบยืดหยุ่น

2.3 ปิดความเสี่ยงสุขภาพที่กระทบอาชีพทันที

ความเสี่ยงใหญ่ของหมอฟันคืออาการ:

  • นิ้วข้อมืออักเสบ / Carpal Tunnel
  • ปวดคอหลัง
  • ปัญหาสายตาจากการมองระยะใกล้นานๆ
  • โรคเรื้อรังที่เกิดจากความเครียดสะสม

ประกันสุขภาพ + โรคร้ายแรงช่วยป้องกันเงินเกษียณจากค่าใช้จ่ายรักษาที่คาดไม่ถึง.


3) เทคนิคจัดโครงสร้างประกัน แบบหมอฟันโดยเฉพาะ

เทคนิค 1: ทำประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองรายได้ของครอบครัว

เพราะรายได้หมอฟันขึ้นกับจำนวนเคส หากเกิดเหตุ ครอบครัวอาจไม่มีเงินหมุนในระยะสั้น ประกันชีวิตช่วยชดเชยรายได้ที่หายไปได้ทันที.

เทคนิค 2: ใช้ Unit-linked เป็นสภาพคล่องคลินิก

  • ถอนบางส่วนได้สำหรับซื้ออุปกรณ์ใหม่
  • ใช้เป็นเงินสำรองเวลาคนไข้ลดลง
  • ยังคงคุ้มครองชีวิตอยู่

เทคนิค 3: แยกประกันตามวัตถุประสงค์

  • คุ้มครองครอบครัว ประกันชีวิต
  • เงินเกษียณ บำนาญ + UL
  • สุขภาพ IPD/OPD
  • โรคร้ายแรง CI
  • ความเสี่ยงมือหลังตา ทุพพลภาพ

เทคนิค 4: ทำมรดกชดเชยมูลค่าคลินิก

กรณีหมอฟันเป็นเจ้าของคลินิก เงินประกันช่วย ชดเชยมูลค่าธุรกิจ ให้ครอบครัวได้ และลดโอกาสต้องขายกิจการในราคาต่ำ.


4) โครงสร้างแผนประกันที่แนะนำสำหรับหมอฟัน

อายุ 25 - 35 ปี (เริ่มทำงาน)

  • สุขภาพ + โรคร้ายแรง
  • Unit-linked เร่งเงินเกษียณ
  • ประกันชีวิตเริ่มต้นเพื่อป้องกันรายได้

อายุ 35 - 45 ปี (เริ่มมีคลินิก/รายได้สูง)

  • เพิ่มเบี้ย UL / บำนาญ
  • คุ้มครองชีวิต 515 ล้านบาทขึ้นไป
  • ทุพพลภาพระดับสูง

อายุ 45 - 55 ปี (เริ่มลดเคส)

  • ทยอยปรับพอร์ต Unit-linked ให้เสี่ยงต่ำลง
  • ล็อกเงินบำนาญเพิ่ม
  • เสริมสุขภาพ IPD+OPD

สนใจให้ช่วยออกแบบแผนเฉพาะสำหรับคุณ?

 ทัก Line เพื่อรับคำปรึกษาส่วนตัวได้ทันที
 ช่องทางอื่นๆ และ นามบัตรดิจิทัล
 สนใจเป็นตัวแทน กับหน่วยงาน iAgencyAIA


iAgencyAIA_FA พิสิทธิ์ วุฒิพิพัฒน์ (แบงค์)
พิสิทธิ์ วุฒิพิพัฒน์
ที่ปรึกษาการเงิน iAgencyAIA FA
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ